การประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2558 “จุดเปลี่ยนสุขภาพไทย... หลัง 2015”

การประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2558 จุดเปลี่ยนสุขภาพไทย... หลัง 2015”

กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้บริการหลักในระบบบริการสุขภาพ ทั้งการส่งเสริม ป้องกันรักษา และฟื้นฟู ที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง ระบบหลักประกันสุขภาพภายใต้พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพคือ การปฏิรูประบบสุขภาพครั้งสำคัญ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังจัดให้มีระบบบริการปฐมภูมิ โดยมีการยกระดับสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมุ่งให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก ได้รับบริการที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการคุณภาพอย่างทั่วถึง ให้มีการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่ยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบปฐมภูมิ โดยจัดให้มี “ทีมหมอครอบครัว” ซึ่งเป็นบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับต่าง ๆ ร่วมกันทำงานแบบบูรณาการ ส่งเสริมให้เกิดการดูแลสุขภาพประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ

การประชุมวิชาการถือเป็นช่องทางสำคัญช่องทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริม พัฒนา และกระตุ้นให้บุคลากรสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และนำองค์ความรู้ใหม่ ๆ เผยแพร่สู่เวทีสาธารณะ รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ อันจะนำไปสู่การพัฒนาและการสร้างเครือข่ายทางวิชาการ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของระบบบริการ ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง

นพ.กำจัด รามกุล หัวหน้าสำนักวิชาการสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ สำนักงานวิชาการสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานสาธารณสุขในเครือข่ายเขตบริการสุขภาพที่ 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี จัด การประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี พ.. 2558 ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน พ.. 2558 ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขได้พัฒนาความรู้และประสบการณ์ทางวิชาการ รวมทั้งมีโอกาสเผยแพร่องค์ความรู้จากการศึกษาวิจัย ผลงานทางวิชาการสู่เวทีสาธารณะ 2. เพื่อส่งเสริมการนำองค์ความรู้จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์จากการปฏิบัติงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข 3. เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกรม กอง และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และ 4. เป็นเวทีเผยแพร่ผลงาน โครงการที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข เช่น ทีมหมอครอบครัว รวมทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง

การประชุมวิชาการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “จุดเปลี่ยนสุขภาพไทย... หลัง 2015” ด้วยคำนึงว่าหลังปี ค.ศ. 2015 ระบบสาธารณสุขไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ทั้งความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ ตลอดจนการเคลื่อนย้ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้น นอกจากนโยบายทีมหมอครอบครัวที่ทางกระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นแล้ว ภายในงานยังจะมีการบรรยายและอภิปรายในหัวข้อที่น่าสนใจที่ถือเป็นไฮไลท์อีกมากมาย

“เรามีการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจากจุดเด่นในเรื่องความรู้ ความสามารถที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการในประเทศไทยแล้ว ยังมีการผลักดันในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Tourism ที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนมีจำนวนผู้ที่เดินทางทั้งจากยุโรป อเมริกา และอาหรับ มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และในอนาคตประเทศไทยยังมีแผนที่จะสร้างโรงพยาบาลในประเทศที่ระบบการแพทย์ยังพัฒนาไม่ทัดเทียมประเทศไทย เช่น พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น ซึ่งจะต้องพิจารณาในเรื่องของความพร้อมต่อไป” นพ.กำจัด กล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม ได้รับเกียรติจาก .นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง “นโยบายการสาธารณสุขปี 2559” และมอบรางวัลชัยนาทนเรนทร ซึ่งเป็นรางวัลทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่มอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีผลงานดีเด่นและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ รวมทั้งมอบโล่รางวัลผลงานวิชาการยอดเยี่ยมที่ได้รับการคัดเลือกจากแต่ละสาขาจากการประชุมวิชาการเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย ส่วนในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 จะมีการจัดงานเลี้ยงผู้เกษียณอายุราชการแก่บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข และวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมจะมีการมอบรางวัลแก่ผู้นำเสนอผลงานวิชาการ และการบรรยายพิเศษเรื่อง Anti-aging เพื่ออัพเดทความรู้และเป็นการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย

“ภาพรวมของการประชุมครั้งนี้เป็นการนำเสนอและประกวดผลงานวิชาการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศที่ได้รับการพิจารณาให้นำเสนอทั้งหมด 700 เรื่อง แบ่งออกเป็นการนำเสนอด้วยวาจา โปสเตอร์ และนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ อีกทั้งยังมีการบรรยายและอภิปรายทางวิชาการ ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องย่อย อาทิ ห้องจุดเปลี่ยนสุขภาพไทย... หลัง 2015 ห้องอาเซียน และห้องหมอครอบครัว เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน เกิดการพัฒนาบริการสุขภาพ ทั้งด้านส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึงยังมีการจัดแสดงนิทรรศการของกรมต่าง ๆ ในเขตบริการสุขภาพ และโครงการที่สำคัญของหน่วยงานในกำกับของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยทางการแพทย์และสาธารณสุขจากบริษัทยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ” นพ.กำจัด กล่าว

ด้านวิทยากรจะมาจากกรมวิชาการในกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลในสังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งนอกจากจะให้เกียรติมาบรรยายแล้วยังจะมาวิพากษ์ผลงานทางวิชาการที่บุคลากรทางแพทย์และสาธารณสุข ทั้งแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ พยาบาล ในทุกสาขาวิชาชีพ ได้ร่วมนำเสนอซึ่งมีกว่า 1,000 เรื่อง โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมวิชาการครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน

“บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เข้าร่วมประชุมจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะได้รับความรู้และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านต่าง ๆ กับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาผลงานวิชาการ เพื่อเตรียมตัวรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่ผลงานทางวิชาการในเวทีสาธารณะ เพื่อประโยชน์ต่อหน่วยงาน และเพื่อความก้าวหน้าในสายวิชาชีพอีกด้วย” นพ.กำจัด กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์/โทรสาร 0-2590-1718-9 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ทาง http://neo.moph.go.th/register