กูรูของความสุข

กูรูของความสุข

ผศ.พญ.รพีพร โรจน์แสงเรือง แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครธน

ทุกคนอยากมีความสุข บางคนรู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อย่างไร แต่อีกหลายคนยังคงไม่รู้

มีคนกลุ่มหนึ่งที่เข้าใจเรื่องความสุขเป็นอย่างดี ถ้าได้คุยกับพวกเขาจะทำให้คุณสัมผัสกับความสุขได้อย่างแท้จริง

กูรู…ผู้เชี่ยวชาญความสุขก็คือ…เด็ก

เด็กเป็นวัยที่เข้าใจความสุขได้ถ่องแท้และสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขได้แท้จริง

ครั้งหนึ่งมีเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ วิ่งหกล้มจนศีรษะแตกเข้ามารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน

เด็กหญิงร้องไห้ตลอดเวลา พอฉันเข้าไปตรวจใกล้ ๆ เธอก็ยิ่งส่งเสียงร้องไห้และเอี้ยวตัวหนีไปมาอยู่ในอ้อมกอดของแม่ที่อุ้มอยู่

จนกระทั่งแม่ต้องบอกให้เธอยิ้มส่งจูบเป็นเพื่อนกับหมอ เด็กหญิงตัวน้อยก็ทำตามด้วยการส่งจูบไปมาพร้อมกับร้องไห้เสียงดัง

ซึ่งสร้างความขบขันให้แก่ผู้คนรอบบริเวณนั้นเป็นอย่างยิ่ง

เด็กหนอเด็ก…ขนาดตนเองกำลังทุกข์อยู่ก็ยังทำตามที่แม่บอก

จึงเกิดปรากฏการณ์ส่งจูบไปพร้อมกับร้องไห้เสียงดังได้อย่างน่าอัศจรรย์ขึ้น…ทั้งที่อารมณ์รักและอารมณ์กลัวนั้นยากที่จะเกิดควบคู่ไปพร้อมกันได้

สมัยเมื่อฉันเป็นครูแพทย์อยู่ในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง การคลุกคลีและสอนนักศึกษาแพทย์ก็ทำให้ฉันมีพลังและมีความสุขไปพร้อมกัน ทั้งนี้เพราะนักศึกษาแพทย์เต็มไปด้วยความคิดและจินตนาการแบบเด็ก ๆ ค่อนข้างมาก

ครั้งหนึ่งฉันสอนเรื่องการกู้ชีพผู้ป่วยที่หมดสติให้แก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 ที่เพิ่งเริ่มฝึกเรียนรู้การดูแลรักษาพยาบาลในหอผู้ป่วย

“การดูแลผู้ป่วยหมดสติและหยุดหายใจ อันดับแรกต้องร้องขอความช่วยเหลือเพื่อดึงผู้คนให้มาช่วยก่อน โดยอาจใช้วิธีตะโกนให้คนแถวนั้นมาช่วยหรือโทรศัพท์หมายเลข 1669 ก็ได้ จากนั้นก็รีบกดหน้าอกและเปิดทางเดินหายใจให้แก่ผู้ป่วย”

ต่อมาในชั่วโมงฝึกปฏิบัติ ฉันจึงขอให้นักศึกษา 1 คนที่สมัครใจมาเริ่มฝึกปฏิบัติกู้ชีพช่วยเหลือผู้ป่วย

นักศึกษาหญิงรายหนึ่งรีบยกมือออกมาร่วมด้วยอย่างเต็มใจ

“เอาล่ะ เธอเป็นคนเดินมาพบผู้ป่วยหมดสติที่กลางตลาด จะทำอย่างไรต่อไป เริ่มได้เลยค่ะ” ฉันอธิบายสถานการณ์เพื่อเริ่มฝึก

ทันใดนั้น นักศึกษาหญิงรายนี้ก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาดังลั่นอย่างน่าตกใจ

“กรี๊ด...กรี๊ด”

ทุกคนในห้องรีบกรูกันเข้ามาหาเธออย่างตกใจ

ฉันเองก็ตกใจเป็นอย่างมากและรีบเข้าไปจับเนื้อตัวเธอเพื่อดูว่าเป็นอะไร

“เธอ ๆ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ มีอะไรบอกครูมาได้นะ”

นักศึกษาหญิงยิ้มอย่างร่าเริงพร้อมกับตอบว่า “อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ ก็อาจารย์บอกให้ร้องตะโกนให้คนมาช่วย หนูก็เลยกรีดร้องให้ดังเดี๋ยวคนจะได้มาช่วยเยอะ ๆ ไงคะ”

ทุกคนในห้องฮาครืน รวมทั้งฉันด้วย

“โถ แค่ร้องบอกว่า ใครอยู่แถวนี้ให้มาช่วยหน่อยก็พอ นี่เล่นร้องซะราวกับถูกทำร้ายแน่ะ”

“แต่อาจารย์เห็นไหม วิธีของหนูดึงคนให้มาช่วยได้มากกว่านะคะ”

ฉันเหลียวดูรอบ ๆ ก็จริงอย่างที่เธอบอก เพราะนักศึกษาทั้งห้องวิ่งมาล้อมอยู่รอบตัวเธอและผู้ป่วยจำลอง

“จริงของเธอนะ วิธีของเธออาจจะดีกว่าตำราก็ได้นะ ซึ่งในรอบ 10 ปีที่สอนมา ครูยังไม่เคยเห็นวิธีเรียกคนมาช่วยแบบนี้ จึงทำใจได้ยากอยู่นะ”

เด็กหนอเด็ก ช่างคิดได้…ฉันเฝ้าแต่รำพึงในใจ

หลายครั้งที่เราทดท้อใจ ลองเข้าไปใกล้ชิดเด็ก ลองพูดคุยกับเขาแล้วความสุขจะเกิดขึ้นในใจของเราได้ไม่ยากเลย

เพื่อนของฉันมีทุกข์บางอย่าง เขาลองนั่งคุยกับลูกวัย 5 ขวบ แม้ลูกน้อยจะไม่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร แต่คำตอบของเขากลับทำให้แม่เกิดสุขใจขึ้นได้ในทันที

“หนูรักแม่ที่สุดในโลกค่ะ หนูไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรแม่นะคะ หนูจะปกป้องแม่เองค่ะ”

กำลังใจที่ลูกเติมให้จนรู้สึกได้ว่า เธอยังมีใครคนหนึ่งที่รักและเป็นกำลังใจให้เธออย่างแท้จริงอยู่เสมอ อันทำให้เธอจะล้มไม่ได้เด็ดขาด

ความสุขและกำลังใจที่ได้รับมักทำให้เพื่อนคนนี้ก้าวข้ามผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปได้ในที่สุดเสมอมา

ถ้ามีความทุกข์…ปรึกษากูรูของความสุข…ก็จะทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างแช่มชื่น