ไตรกลีเซอไรด์สูงและความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

ไตรกลีเซอไรด์สูงและความเสี่ยงตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

JAMA Intern Med. 2016;176(12):1834-1842.

บทความเรื่อง Nonfasting Mild-to-Moderate Hypertriglyceridemia and Risk of Acute Pancreatitis รายงานว่า ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงรุนแรงสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าค่าไตรกลีเซอไรด์ที่สูงกว่าปกติสัมพันธ์กับตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันหรือไม่

คณะผู้ศึกษาวิจัยได้ทดสอบสมมติฐานว่า ค่าไตรกลีเซอไรด์โดยไม่อดอาหารที่สูงเล็กน้อยถึงปานกลาง (177-885 มิลลิกรัม/เดซิลิตร; 2-10 มิลลิโมล/ลิตร) สัมพันธ์กับตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โดยศึกษาจากอาสาสมัครในการศึกษาวิจัย Copenhagen General Population Study ระหว่างปี ค.ศ. 2003-2015 และ Copenhagen City Heart Study Initiated ระหว่างปี ค.ศ. 1976-1978 โดยตรวจติดตามในปี ค.ศ. 1981-1983, 1991-1994 และ 2001-2003 มัธยฐานการติดตามเท่ากับ 6.7 ปี (interquartile range อยู่ระหว่าง 4.0-9.4 ปี) โดยรวบรวมอาสาสมัคร116,550 คน ซึ่งมีข้อมูลผลไตรกลีเซอไรด์จากการศึกษา Copenhagen General Population Study (n = 98,649) และ Copenhagen City Heart Study (n = 17,901) อาสาสมัครทั้งหมดได้รับการติดตามจนพบการเกิดเหตุการณ์ของโรค การเสียชีวิต อพยพออก หรือสิ้นสุดการติดตาม (พฤศจิกายน ค.ศ. 2014) แล้วแต่ว่าข้อใดมาถึงก่อน ผลลัพธ์หลักได้แก่ ค่า hazard ratios (HRs) สำหรับตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน (n = 434) และกล้ามเนื้อหัวใจตาย (n = 3,942)

มีอาสาสมัครที่รวบรวมเข้ามาในการศึกษาวิจัยทั้งสิ้น 116,550 ราย (มัธยฐานอายุ [interquartile range]  57 [47-66] ปี) เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ระดับไตรกลีเซอไรด์ในพลาสมาต่ำกว่า 89 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (< 1 มิลลิโมล/ลิตร) พบว่าค่า HRs ปรับพหุตัวแปรสำหรับตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันเท่ากับ 1.6 (95% CI 1.0-2.6; 4.3 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) สำหรับผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์ 89 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถึง 176 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (1.00-1.99 มิลลิโมล/ลิตร), 2.3 (95% CI 1.3-4.0; 5.5 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) สำหรับ 177-265 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (2.00-2.99 มิลลิโมล/ลิตร), 2.9 (95% CI 1.4-5.9; 6.3 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) สำหรับ 346-353 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (3.00-3.99 มิลลิโมล/ลิตร), 3.9 (95% CI 1.5-10.0; 7.5 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) สำหรับ 354-442 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (4.00-4.99 มิลลิโมล/ลิตร) และ 8.7 (95% CI 3.7-20.0; 12 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) สำหรับผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงกว่าหรือเท่ากับ 443 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (≥ 5.00 มิลลิโมล/ลิตร) (trend, p = 6 x 10-8) ค่า HRs สำหรับกล้ามเนื้อหัวใจตายเท่ากับ 1.6 (95% CI 1.4-1.9; 41 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี), 2.2 (95% CI 1.9-2.7; 57 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี), 3.2 (95% CI 2.6-4.1; 72 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี), 2.8 (95% CI 2.0-3.9; 68 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) และ 3.4 (95% CI 2.4-4.7; 78 เหตุการณ์/10,000 คน/ปี) (trend, p = 6 x 10-31) ตามลำดับ โดยค่า HR ปรับพหุตัวแปรสำหรับตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันเท่ากับ 1.17 (95% CI 1.10-1.24) ต่อระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงกว่า 89 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (1 มิลลิโมล/ลิตร) เมื่อแบ่งตามเพศ อายุ การศึกษา การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง การใช้ statin กลุ่มในการศึกษาวิจัย เบาหวาน ดัชนีมวลกาย การดื่มเหล้า และนิ่วในถุงน้ำดี พบว่าผลลัพธ์ยังคงใกล้เคียงกันโดยไม่พบอันตรกิริยาที่ชัดเจน

ค่าไตรกลีเซอไรด์โดยไม่อดอาหารที่สูงเล็กน้อยถึงปานกลางจากระดับ 177 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (2 มิลลิโมล/ลิตร) สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โดยมีค่าประมาณ HR ที่สูงกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย