ทำความรู้จักกับยาปฏิชีวนะชนิดใหม่สำหรับการรักษาการติดเชื้อของผิวหนัง

อ.นพ.สันติ สิลัยรัตน์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

ทำความรู้จักกับยาปฏิชีวนะชนิดใหม่สำหรับการรักษาการติดเชื้อของผิวหนัง

การติดเชื้อเฉียบพลันของผิวหนังและเนื้อเยื่อข้างเคียง (acute bacterial skin and skin structure infections: ABSSSIs) มักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม aerobic gram-positive cocci พบได้บ่อยและส่วนใหญ่มักจะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุบัติการณ์ของการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยา เช่น methicillin-resistance Staphylococcus aureus (MRSA) ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การติดเชื้อมีโอกาสลุกลามกลายเป็นการติดเชื้อได้หากไม่ได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก สำหรับการรักษาโรคติดเชื้อในกลุ่ม ABSSSIs นั้น ในปัจจุบันมีทิศทางในการค้นคว้าและผลิตยาโดยเน้นการครอบคลุมเชื้อ MRSA เป็นหลัก โดยยาที่มีใช้กันแพร่หลายมาก่อนหน้านี้ได้แก่ vancomycin ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม glycopeptides และมียา linezolid ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม oxazolidinones สำหรับใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจาก vancomycin-resistant Enterococcus (VRE)

ยา Dalbavancin และ Oritavancin

ยาใหม่ ๆ ในกลุ่ม glycopeptide เกิดขึ้นเนื่องจากเริ่มมีอุบัติการณ์ของการดื้อยาหรือความไวของเชื้อ MRSA ต่อยา vancomycin ที่ลดลง และการติดตามระดับยาในเลือดที่เหมาะสมทำได้ยาก ยาใหม่ซึ่งได้แก่ dalbavancin และ oritavancin เป็นยาใหม่ในกลุ่มนี้ซึ่งออกฤทธิ์ในการครอบคลุมเชื้อได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น และมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่ดีขึ้น ยา dalbavancin เป็นยาสำหรับใช้ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ออกฤทธิ์ได้ยาว จึงสามารถใช้ยาเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง​ โดยในครั้งแรกให้ในขนาด 1,000 มิลลิกรัม และในสัปดาห์ที่ 2 ให้ในขนาด 500 มิลลิกรัม ส่วนยา oritavancin นั้นขนาดยาที่แนะนำคือ 1,200 มิลลิกรัม ฉีดเข้าหลอดเลือดดำเพียงครั้งเดียว สามารถครอบคลุมการติดเชื้อได้ดี

ในแง่ของประสิทธิภาพในการครอบคลุมเชื้อและประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อนั้น ทั้ง dalbavancin และ oritavancin สามารถครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ MRSA และ MSSA ได้ดี รวมถึงเชื้อแกรมบวกอื่น ๆ เช่น S. pyogenes, S. agalactiae, S. anginosus และยังสามารถกำจัดเชื้อ Enterococcus faecalis ที่ไวต่อยา vancomycin

อาการข้างเคียงที่อาจพบได้สำหรับทั้งยา dalbavancin และ oritavancin ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว และอาการปวดศีรษะ แต่พบได้ไม่บ่อยคือ ประมาณ 10% ของผู้ป่วยที่ใช้ยา สำหรับผู้ป่วยตั้งครรภ์ ทั้ง dalbavancin และ oritavancin จัดอยู่ในกลุ่ม pregnancy category C

 

ยา Tedizolid phosphate

สำหรับยาในกลุ่ม oxazolidinones เป็นยาที่ออกฤทธิ์กำจัดเชื้อได้ทั้ง MRSA และ VRE ได้ โดยยับยั้งกระบวนการสร้างโปรตีนของเชื้อแบคทีเรียด้วยการจับกับโครงสร้าง 50S subunit ของ bacterial ribosome ซึ่งในปัจจุบันมียาที่ใช้ในทางคลินิกคือ linezolid อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการใช้ยามากขึ้น อุบัติการณ์ของการดื้อยาก็เพิ่มขึ้นตามมา

ยา tedizolid เป็นยารุ่นที่ 2 ในกลุ่มนี้ซึ่งมีการดื้อยาที่น้อยกว่า เนื่องจากมีโครงสร้างทางเคมีของยาที่ต้านกระบวนการดื้อยาได้ จึงสามารถครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มแกรมบวกได้อย่างกว้างขวาง รวมถึง MRSA, MSSA และ VRE มีทั้งในรูปแบบฉีดเข้าหลอดเลือดดำและแบบรับประทาน ข้อดีที่สำคัญประการหนึ่งของยา tedizolid ที่ดีกว่า linezolid ก็คือความปลอดภัย โดย tedizolid ไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น peripheral และ optic neuropathy หรือ thrombocytopenia อาการข้างเคียงที่พบได้จากการใช้ยา tedizolid ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว และอาการเวียนศีรษะ ซึ่งพบได้ราวร้อยละ 8