Vitamin D มีส่วนช่วยชะลอการดำเนินโรคมะเร็งลำไส้

Vitamin D มีส่วนช่วยชะลอการดำเนินโรคมะเร็งลำไส้

            Medscape Medical News: ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ (colon cancer) ที่มีระดับวิตามินดีในเลือดที่สูงมีแนวโน้มที่จะรอดชีวิตมากกว่ากลุ่มที่มีระดับวิตามินดีต่ำ จึงทำให้มีแพทย์หลายคนเลือกที่จะตรวจวัดระดับวิตามินดีในเลือดของผู้ป่วยและพิจารณาเสริมวิตามินในรายที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ แต่เนื่องจากยังไม่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นถึงผลดีของวิตามินดีในผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างชัดเจน นักวิจัยหลายคนให้ความสนใจและได้เริ่มทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจากการวิจัยล่าสุดชื่อ SUNSHINE ซึ่งเป็นการศึกษาแบบ randomized trials เกี่ยวกับการเสริมวิตามินดีขนาดสูงในผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ โดย Kimmie Ng และคณะผู้วิจัยจาก Dana Farber Cancer Institute รัฐ Massachusetts ก็พบว่าสามารถช่วยทำให้ระยะเวลาการรอดชีวิตโดยไม่มีการดำเนินโรคเพิ่มขึ้น (progression-free survival: PFS) ดีขึ้นกว่ากลุ่มที่ได้รับวิตามินดีในขนาดต่ำอย่างชัดเจน

            การศึกษาดังกล่าวนี้เป็นการศึกษาแบบ randomized trial ที่มีผู้เข้าร่วมการศึกษา 139 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับการเสริมวิตามินดี (vitamin D3) โดยการรับประทานในขนาดสูงคือ 8,000 IU ต่อวัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตามด้วยขนาด 4,000 IU ต่อวัน จำนวน 69 คน และขนาดต่ำคือ ได้รับวิตามิน D3 ในขนาด 400 IU ต่อวัน จำนวน 70 คน ผู้ป่วยในทั้ง 2 กลุ่มได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดที่คล้ายกันและมีการรับประทานวิตามินดีเสริมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลการศึกษาก็พบว่ามี PFS เฉลี่ย 13.1 เดือนในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับวิตามินดีในขนาดสูง เปรียบเทียบกับ 11.2 เดือนในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับวิตามินดีในขนาดต่ำ กล่าวคือ สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดการดำเนินโรคที่มากขึ้นได้ 31% (unadjusted hazard ratio 0.69; p = 0.04) ส่วนในแง่ของความปลอดภัยจากการใช้ยานั้น อาการข้างเคียงที่พบ ได้แก่ อาการถ่ายเหลว ซึ่งไม่ได้แตกต่างกันทั้ง 2 กลุ่ม