Difelikefalin ทางเลือกใหม่ของการรักษาผู้ป่วยภาวะ Uremic Pruritus

Difelikefalin ทางเลือกใหม่ของการรักษาผู้ป่วยภาวะ Uremic Pruritus

            Medscape Medical News: ผลการศึกษาในระยะที่ 3 เกี่ยวกับการใช้ยา difelikefalin ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม kappa opioid receptor agonist ในการรักษาอาการคันรุนแรงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (uremic pruritus) ที่ได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือดแทนไตชื่อ KALM-1 study พบว่าสามารถช่วยลดอาการคันลงได้ชัดเจนภายใน 12 สัปดาห์หลังการรักษา

ผู้ป่วยโรคไตเสื่อมในระยะ end-stage renal disease อย่างน้อยร้อยละ 40 มักจะประสบปัญหาอาการคันที่เกิดขึ้นจากโรคซึ่งเรียกว่า uremic pruritus ที่เป็นปัญหาสำคัญเนื่องจากทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่ลง ซึ่งในปัจจุบันการรักษาที่ได้รับการรับรองให้ใช้ได้มีเพียงยาในกลุ่ม antihistamine ได้แก่ diphenhydramine หรือการใช้ ultraviolet light therapy แต่มักจะมีข้อจำกัดในแง่ของประสิทธิภาพและความยุ่งยากของการรักษา Steven Fishbane และคณะผู้วิจัยจาก Northwell Health ใน New York จึงทำการศึกษาวิจัยในแบบ multicenter, double-blind, placebo-controlled โดยมีผู้ป่วยเป็นอาสาสมัครเข้าร่วมการวิจัยรวม 377 คน อาสาสมัครได้รับการสุ่มให้ได้รับการรักษาที่แตกต่างกันคือ ยา difelikefalin ในขนาด 0.5 µg/kg ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือยาหลอกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ และวัดผลการศึกษาด้วยเกณฑ์วัดอาการคัน Worst Itch Numeric Rating Scale (WI-NRS) ที่ลดลงจากเริ่มต้นการศึกษา ซึ่งผลการศึกษาพบว่ามีสัดส่วนของผู้ที่มีคะแนน WI-NRS ลดลงจากเดิมอย่างน้อย 3 คะแนนในกลุ่มผู้ที่ได้รับยา difelikefalin คิดเป็นร้อยละ 51 เทียบกับร้อยละ 28 ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (p < 0.001) และสัดส่วนของผู้ที่มีคะแนนลดลงอย่างน้อย 4 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 39 เทียบกับร้อยละ 18 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติเช่นเดียวกัน ส่วนในแง่ของคุณภาพชีวิต พบว่ากลุ่มที่ได้รับยา difelikefalin มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในช่วง 12 สัปดาห์ของการรักษาดีกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอก โดยเมื่อใช้เกณฑ์ 5-D Itch scale และ Skindex-10 scale พบว่าดีกว่ายาหลอกคิดเป็นร้อยละ 35 และ 43 ตามลำดับ

ผู้วิจัยกล่าวว่า ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ายาใหม่นี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้มาก โดยมีหลักฐานทางการวิจัยยืนยันชัดเจน มีผลข้างเคียงน้อย และยังใช้ได้ง่ายโดยฉีดให้แก่ผู้ป่วยในช่วงเวลาที่ทำการฟอกเลือดแทนไตได้